|
บทความน่าอ่าน |
บ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อนุมัติยากขึ้น
บ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านทาวน์เฮ้าส์ สำหรับบ้านใหม่ ส่วนบ้านมือสอง อาจจะได้ถึงบ้านแฝด แต่ถ้าเป็นชานเมืองหรือต่างจังหวัด ก็อาจจะได้ถึงบ้านเดี่ยว มีข่าวมาระยะหนึ่งแล้วว่าอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารยากมาก ซึ่งข่าวมีมูลความจริงอยู่
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากยอดหนี้เสีย (NPL) ของบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท พุ่งสูงขึ้น
กระจายอยู่ทุกธนาคาร มากน้อยต่างกันไป เมื่อหนี้เสียเพิ่มขึ้น แต่ละธนาคารก็จะออกมาตรการแก้ไขปัญหา มีทั้งแก้ไขหนี้เสียของเดิม และแนวทางป้องกันหนี้เสียสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้าน
เดิมทีทางธนาคารอาจจะมีมาตรการปล่อยสินเชื่อยากขึ้น คือพิจรณา รายได้ ภาระหนี้เดิมของลูกค้า ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เป็นลักษณะ case by case ถ้าลูกค้ารายได้สูง ภาระหนี้น้อย ประวัติการชำระที่ผ่านมาดี ฐานะการงานมั่นคง ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย ยังปล่อยสินเชื่อได้ตามปกติ
เมื่อเข้าไตรมาส 3 ของปี อาจมีการทบทวนการปล่อยสินเชื่อสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท บางธนาคารอาจจะปิดการปล่อยสินเชื่อ หรือ ปล่อยยากขึ้นอีก (จากข่าว)
ถ้าเราเป็นผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน และต้องขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร เราก็ต้องคุยกับทางเจ้าหน้าที่ ถามถึงนโยบายการปล่อยสินเชื่อนี้ ว่ามีนโยบายอย่างไร ถ้าสอบถามแล้วโอกาสอนุมัติน้อย เราควรเลือกธนาคารที่ยังปล่อยสินเชื่อต่ำกว่า 3 ล้าน ที่ยังปล่อยสินเชื่อเป็นปกติอยู่
เพราะการขอสินเชื่อบ้าน แต่ละครั้ง มันมีผลหลายอย่าง แนะนำว่าสอบถามก่อน แล้วเลือกธนาคารที่เป็นไปได้มากที่สุด แล้วเลือกยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารนั้น ๆ ถ้าไปต่อไม่ได้ อาจมีข้อแนะนำดี ๆ จากเจ้าหน้าที่ค่ะ การปล่อยสินเชื่อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านที่ยากขึ้นในช่วงนี้ ก็เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปค่ะ ลองยื่นขอสินเชื่อดู ติดตามข่าวสาร ก็จะทำให้มีข้อมูลไว้ตัดสินใจหรือดำเนินการต่าง ๆ ได้ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านนะคะ
|
💸ให้รายจ่ายไม่เกินรายได้💸 |
บทความ: วางแผนการเงิน ให้รายจ่ายไม่เกินรายได้
สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน! วันนี้ admin จะพาทุกคนไปสนุกกับการ "วางแผนการเงินแบบง่ายๆ" รับรองว่าทำตามได้จริง และจะทำให้ชีวิตการเงินของเราดีขึ้นอย่างแน่นอน
ก่อนอื่นทำไมต้องวางแผนการเงิน ก็เพราะเราเริ่มวางแผนการซื้อบ้านแล้วนั่นเอง
เป้าหมายของการวางแผนการเงิน คือการทำให้รายรับมากกว่ารายจ่าย เพื่อให้เรามีเงินเหลือเก็บเป็นเงินออม และนำเงินอีกส่วนหนึ่งนั้นไปลงทุนต่อยอดได้ในอนาคต (ถ้าเราตั้งงบประมาณที่ไม่เกิน 50 เท่าของรายได้ เป็นราคาบ้านที่เราจะซื้อ) การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน และไม่ต้องวิตกกังวลในยามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
🎉 เริ่มวางแผนการเงินกันเถอะ 🎉
1. 📝 จดบันทึกค่าใช้จ่าย (อย่ามองข้ามเด็ดขาด มีผลลัพภ์ที่ดีจริง)
ขั้นแรก ลองจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายของเราทุกวัน เพื่อให้เรารู้ว่าเงินของเราไหลไปไหนบ้าง เมื่อเราเห็นภาพรวม เราจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินของเราได้
2. 📊 แบ่งประเภทค่าใช้จ่าย
แบ่งค่าใช้จ่ายของเราออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เมื่อแบ่งประเภทค่าใช้จ่ายได้แล้ว เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่ เงินของเราไปอยู่ตรงไหนมากที่สุด จากนั้น เราจะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นได้ (มีสูตร เงิน 6 ถัง ไว้มีโอกาสจะนำเสนอนะคะ)
3. 🏆 ตั้งเป้าหมาย (นอกจากเป้าหมายเรื่องบ้าน เป็นเป้าหมายรอง)
ตั้งเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง เช่น อยากมีเงินเก็บ 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี เป้าหมายนี้จะช่วยกระตุ้นให้เรา อยากเก็บเงินมากยิ่งขึ้น และทำให้เรามีแรงผลักดันในการวางแผนการเงิน
💡 เคล็ดลับ 💡
* ใช้เทคนิค "40-30-20" คือ นำรายได้ 40% มาเป็นค่าใช้จ่าย 30% เป็นเงินออม และ 20% เป็นเงินลงทุน (เป็นอีกเทคนิค ของการออมเงิน และ แบ่งเงินเป็นสัดส่วน)
* ใช้แอพพลิเคชัน Planner Finance ช่วยในการวางแผนการเงิน
* อ่านบทความ ฟัง Podcast เกี่ยวกับการเงิน เพื่อเพิ่มความรู้ และมองหาแรงบันดาลใจ
การวางแผนการเงิน ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก เพียงแค่เราเริ่มทำตามขั้นตอนง่ายๆ เราก็สามารถบริหารจัดการเงินของตัวเองได้อย่างชาญฉลาด มีชีวิตการเงินที่มั่นคง และไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่เราตั้งไว้ อย่าลืมนำเคล็ดลับดีๆ ไปปรับใช้กันนะคะ สำคัญที่สุดเลยคืออย่าปล่อยให้รายจ่ายเราสูงกว่ารายได้เด็ดขาดค่ะ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝัน จะมาหาเราเป็นระยะเสมอค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ
|
เก็บเงินในบัญชีดีกว่า
|
บทความ: เก็บเงินไว้ในบัญชีดียังไง
สร้างประวัติทางการเงินที่น่าประทับใจกัน การขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ หรือแม้แต่สินเชื่อส่วนบุคคล ล้วนต้อง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากธนาคาร ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ธนาคารให้ความสำคัญคือ "ประวัติทางการเงิน" ของผู้กู้
การมีเงินคงเหลือในบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างประวัติทางการเงินที่ดี แสดงให้ธนาคารเห็นถึงความรับผิดชอบในการจัดการเงิน และความสามารถในการออมของเรา
* ทำไมธนาคารถึงให้ความสำคัญกับเงินฝาก เงินคงเหลือในบัญชี
- บ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงิน
- ธนาคารต้องการมั่นใจว่าผู้กู้มีรายได้ที่เพียงพอและสม่ำเสมอ เพื่อชำระค่างวดสินเชื่อ ที่กู้ยืมไป
- แสดงถึงความรับผิดชอบ การมีเงินฝาก เงินคงเหลือในบัญชีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมีวินัยทางการเงิน
- ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารสามารถใช้ข้อมูลเงินฝาก เงินคงเหลือเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้สินในอนาคต
- สร้างความน่าเชื่อถือ ประวัติการเงินที่ดีช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้กู้ เพิ่มโอกาส ในการอนุมัติสินเชื่อ
เทคนิคการเก็บเงินในบัญชีเพื่อสร้างประวัติทางการเงินที่ดี
* เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลือกธนาคารที่สะดวกต่อการทำธุรกรรม โอนเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินโบนัส หรือเงินพิเศษ (ในกรณีที่เราแยกบัญชีออมเงินอีกหนึ่งบัญชี)
* ตั้งเป้าหมายการออม กำหนดเป้าหมายการออมเพื่อสร้างแรงจูงใจ
* หลีกเลี่ยงการถอนเงินบ่อยครั้ง ยิ่งถอนเงินน้อยครั้งเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความมีวินัยทางการเงินมากขึ้น (ในกรณีที่เราแยกบัญชีออมเงินโดยเฉพาะ)
* ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาด
## เริ่มต้นเก็บเงินวันนี้ สร้างประวัติทางการเงินที่น่าประทับใจ
การเก็บเงินในบัญชีธนาคารไม่เพียงแต่ช่วยสร้างประวัติทางการเงินที่ดี ยังช่วยให้คุณมีเงินออมสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคง
|
การใช้เงิน เก็บเงิน แบบ 6 Jars |
บทความ:เก็บเงิน ใช้เงิน แบบ 6 Jars
ปลดล็อคพลังแห่งการออม เรียนรู้เทคนิค 6 Jars เก็บเงินแบบมืออาชีพ
มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ต่างก็ใฝ่ฝันอยากมีเงินเก็บก้อนโต คงไม่มีใครปฏิเสธแน่นอน แต่อุปสรรคสำคัญ คือ การจัดการกับรายรับและรายจ่ายให้ลงตัว วันนี้ เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก นั่นคือ เทคนิค 6 Jars การเก็บเงินยอดนิยมที่ช่วยให้คุณบริหารเงินอย่างมืออาชีพ
**6 Jars คืออะไร**
6 Jars เป็นเทคนิคการจัดสรรเงินออม โดยแบ่งเงินออกเป็น 6 โหลตามเป้าหมายทางการเงินที่แตกต่างกัน แนวคิดนี้ เกิดขึ้นโดย T. Harv Eker นักเขียนและวิทยากรชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือ Secrets of the Millionaire Mind (ขอขอบคุณผู้เขียน มาณ ที่นี้)
**ทำไมต้องเป็น 6 โหล**
เพราะหลัก ๆ ในชีวิตของคนเรา แบ่งเรื่องสำคัญที่จะใช้เงินให้คุ้มค่าออกได้ เป็น 6 เรื่องหลัก มีความเชื่ออีกหนึ่งความเชื่อของชาวจีน เลข 6 หมายถึง โชคลาภ ความร่ำรวย การแบ่งเงินออกเป็น 6 โหล ถ้านำความเชื่อนี้มาผสมกัน จึงเปรียบเสมือนการดึงดูดโชคลาภทางการเงินให้เข้ามาหาตัวเราได้อีกด้วย
- โหลที่ 1 จ่ายให้ตัวเองก่อน (55%)
โหลนี้สำคัญต่อชีวิตประจำวัน เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็น และใช้จ่ายประจำ เช่นค่าอาหาร ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าโทรศัพย์ ค่างวดผ่อนรถ-ผ่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับการตั้งงบประมาณการซื้อบ้าน เพื่อให้ค่างวดไม่สูงเกินกว่าความเหมาะสมกับรายได้ของเรา
- โหลที่ 2 การลงทุน (10%) หรือเป็นโหลที่ไว้ใช้สำหรับเพื่อเกษียณ
โหลนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน เป็นโหลแห่งความมั่งคั่ง แบ่งเงิน 10% ของรายได้มาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้เงินของคุณงอกเงย ห้ามนำออกมาใช้เด็ดขาด โหลนี้ยิ่งออมมากยิ่งเข้าใกล้ความรวย
ยุคนี้ การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด โหลนี้ จึงเป็นโหลที่ช่วยให้คุณพัฒนาตัวเอง แบ่งเงิน 10% ของรายได้มาใช้เพื่อการศึกษาหาความรู้ ทั้งในด้านการงาน ธุรกิจ หรือ ด้านอื่นๆ ที่สนใจ เราสามารถเติบโตจากการเพิ่มทักษะ ความสามารถได้
- โหลที่ 4 ให้รางวัลกับชีวิต หรือของฟุ่มเฟือย (10%)
หลังจากทำงานหนักมาทั้งเดือน โหลนี้ อนุญาตให้คุณใช้เงินเพื่อความสุขส่วนตัว แบ่งเงิน 10% ของรายได้มาใช้จ่ายกับสิ่งที่อยากได้ อยากทำ เช่น ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว รับประทานอาหาร เป็นต้น ไม่ต้องเครียดกับการเก็บเงินมากเกินไป
- โหลที่ 5 การบริจาค และการให้ (การกุศล) (5%)
การแบ่งปันช่วยให้ชีวิตมีความสุข แบ่งเงิน 5% ของรายได้เพื่อทำบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น ซื้อของขวัญ ของฝากให้คนที่เรารัก นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังช่วยสร้างความสุขทางใจอีกด้วย
- โหลที่ 6 เป้าหมายระยะยาว (10%)
โหลนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บเงินก้อนใหญ่ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ (เตรียมไว้ซ่อมแซมบ้าน-รถ) นำเงิน 10% ของรายได้มาเก็บไว้ในโหลนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ โหลนี้เหมือนเป็นเงินสดฉุกเฉินก็ได้ หรือเป็นเป้าหมายที่ใช้แล้วหมดไปได้ค่ะ
**เทคนิคเสริม**
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เขียนเป้าหมายทางการเงินของคุณลงในกระดาษ เพื่อให้มีแรงบันดาลใจในการเก็บเงิน
- วินัยทางการเงิน หมั่นเติมเงินในโหลต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
- ประเมินผลเป็นประจำ ตรวจสอบผลลัพธ์เป็นระยะ ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรเงินให้เหมาะสม
**เทคนิค 6 Jars เป็นเพียงเครื่องมือ** ที่ช่วยให้คุณจัดการกับเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
**กุญแจสำคัญอยู่ที่วินัย และ ความมุ่งมั่น** เชื่อว่า ด้วยเทคนิค 6 Jars และ ความพยายามของคุณ จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างแน่นอน
***แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องถอนเงินออกมาใส่โหลไว้กับบ้านนะคะ เพราะเก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคาร มีผลดีมากกว่า เมื่อเราต้องการนำไปอ้างอิง สถานะทางการเงินของเราในอนาคตค่ะ แนะนำวิธีเก็บเงินได้หลายกระปุกกับ Kept จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา พร้อมรับ โปรพิเศษ
คลิกที่รูปภาพได้เลยค่ะ
|
สมัครใช้บัญชีเก็บเงินกับ Kept จากธ.กรุงศรีอยุธยา |
บทความ: คู่มือพิชิตบ้านในฝัน เคล็ดลับเลือกบ้านที่ใช่ ตอบทุกโจทย์ทุที่ต้องการ
จากบทความเดิมที่ทางเพจแนะนำผู้อ่าน เลือกซื้อบ้านด้วยการกำหนดงบประมาณให้สอดคล้องกับรายได้ไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ Home with Nasi ขอเพิ่มเติมข้อมูลไว้ให้ใช้เลือกซื้อบ้านกันค่ะ
การซื้อบ้านถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต บทความนี้เปรียบเสมือนคู่มือ ที่จะช่วยให้คุณค้นพบ "บ้านในฝัน" ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยการวิเคราะห์ 3 หลักเกณฑ์สำคัญ ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง ราคา และพื้นที่ใช้สอย
- 1. ทำเลที่ตั้ง หัวใจสำคัญของความสะดวกสบาย ทำเลที่ตั้งเปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง เลือกทำเลที่ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน หรือจุดหมายปลายทางที่คุณใช้บ่อย ช่วยประหยัดเวลา ลดความเครียดจากการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก พิจารณาว่าบริเวณใกล้เคียงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหรือไม่ เช่น ร้านค้า ตลาด โรงพยาบาล ธนาคาร เป็นต้น สภาพแวดล้อม เลือกทำเลที่มีสภาพแวดล้อมดี ปลอดภัย สงบ ปราศจากมลพิษ เพื่อการอยู่อาศัยที่ร่มรื่น สุขสบาย
- 2. ราคา วางแผนการเงิน วางงบประมาณ เลือกบ้านที่คุ้มค่า เลือกจากความสามารถในการผ่อนชำระก็ได้ หรือเลือกจากสัดส่วนรายได้/ค่างวด ก็ได้ แต่อยากขอแนะนำให้ค่างวดไม่สูงเกิน 50% ของรายได้ค่ะ โดยพิจรณาประกอบด้วย
กำลังเงิน ประเมินงบประมาณ คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งเงินดาวน์ ค่าผ่อนชำระ และ
ดอกเบี้ย
แหล่งเงินกู้ ศึกษาเปรียบเทียบดอกเบี้ย เงื่อนไขการอนุมัติวงเงิน LTV และโปรโมชั่นจาก
ธนาคาร เพื่อเลือกเงื่อนไขที่ดีที่สุด
- 3. พื้นที่ใช้สอย ตอบสนองไลฟ์สไตล์
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ควรตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัว เช่น
จำนวนห้องนอน ห้องน้ำ พิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว และความเป็นส่วนตัว
ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ควรมีขนาดเหมาะสม รองรับกิจกรรมต่างๆ ของครอบครัว
พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สวน ระเบียง ควรมีพื้นที่เพียงพอ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
เปรียบเทียบราคาบ้านในทำเลใกล้เคียง วัสดุ การก่อสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเลือก
บ้านที่คุ้มค่าที่สุด
**เคล็ดลับพิเศษ**
- สำรวจพื้นที่จริง ก่อนตัดสินใจซื้อ เมื่อเราคัดกรองจาก 3 ปัจจัยไว้แล้ว รวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว เราเลือกเข้าชมบ้านจากบ้านที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด เริ่มนัดหมายเข้าชมโครงการจริง เพื่อสำรวจทำเล สิ่งแวดล้อม และวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง
การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการวิเคราะห์ 3 หลักเกณฑ์สำคัญ และเคล็ดลับพิเศษ คุณจะค้นพบ "บ้านในฝัน" ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สร้างรอยยิ้ม และความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว
น้องน่ารักมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ AI Generate ค่ะ
ลบ